วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Great Memories @ Walt Disney World Resort


การเตรียมตัวก่อนเดินทางไกล

จริงๆ แล้วเรื่องนี้เกิดตั้งแต่ปี 2011 แต่เพิ่งได้มีโอกาสมาเขียน ดังนั้น ท่านใดเข้ามาอ่าน ก็ขอให้รู้ว่ามันเป็นข้อมูลเก่าๆ แล้วนะค่ะ

โครงการ Work&travel โครงการยอดฮิตของเด็กมหาลัย ทุกๆปีจะต้องมีการประชาสัมพันธ์ตั้งแต่เปิดเทอมหนึ่งใหม่ๆ ทั้ง ลด แลก แจก แถม จากหลายๆเอเจนซี่ และทุกปีก็จะมีเด็กมหาลัยสมัครไปมากมาย และทุกๆปีก็จะมีเด็กที่เกิดปัญหาเสมอๆ ตัวเราเองก็อยากไปซักครั้งในชีวิต ทั้งเที่ยว ทั้งได้เงิน แต่ปัญหาหนึ่ง คือ ค่าใช้จ่ายนะสิ เผลอๆรวมๆแล้วก็แสนกว่าๆ เงินก็ไม่มี แล้วจะทำยังงัย พอดีเพื่อนสนิท น้องออมมี่ ชวนเข้าร่วมโครงการของทางดิสนีย์ พอเราได้อ่านรายละเอียดแล้วน่าสนใจมาก เพราะงานมั่นคง ปลอดภัย และไม่เสียค่าใช้จ่ายมากเท่าเอเจนซี่อื่นๆ เราเลยแอบไปสมัครไว้ และต้องเตรียมเอกสารพอสมควร สำหรับเอกสาร ในปีที่เราไป ต้องเตรียมสำเนาพาสปอร์ต หนังสือรับรองสถานภาพนักศึกษา ใบเกรด (อะไรอีกนะ!!) ใบสมัครด้วยนะ (คิดว่านะ) สำหรับการสัมภาษณ์ จะมีสองรอบ รอบแรกจะสัมภาษณ์กับทางลอนดอนเฮ้าส์ ซึ่งถือเป็นตัวแทนแห่งเดียวที่ได้รับมอบหมายให้คัดเลือกเด็กจากประเทศไทย ส่วนรอบที่สองนั้น เป็นการสัมภาษณ์กับทางตัวแทนจากดิสนีย์

สำหรับตัวเรา อาจเป็นเพราะโชคชะตาไม่เป็นใจ ทำให้เตรียมเอกสารไม่ครบ วันที่สัมภาษณ์รอบแรก จึงต้องคัดเป็นต้วสำรองทันที และต้องนั่งรอสัมภาษณ์เป็นกลุ่มสุดท้าย แต่อย่างน้อยก็ไม่ได้มีเราแค่คนเดียว แต่มีคนอื่นๆเป็นเพื่อนด้วย^-^*

อย่างไรก็ดี โชคชะตาก็ไม่ได้โหดร้ายกับเราเสมอไป การสัมภาษณ์รอบแรกผ่าน และทางตัวแทนของดิสนีย์ก็ให้โอกาสเราได้สัมภาษณ์รอบที่สอง แต่ต้องไปสัมภาษณ์ที่เชียงราย ซึ่งสำหรับเราแล้ว ไม่มีปัญหา ฮิฮิ

การสัมภาษณ์รอบนี้ จะแตกต่างจากรอบแรก นอกจากต้องสัมภาษณ์กับตัวแทนจากดิสนีย์โดยตรงแล้ว จะต้องสัมภาษณ์เป็นคู่ด้วย!!! ก่อนวันสัมภาษณ์ เราก็พยายามเตรียมคำตอบสำหรับคำถามที่คิดว่าเค้าน่าจะถาม เช่น ทำไมถึงอยากเข้าร่วมโครงการของดิสนีย์ คิดว่าจะได้ประโยชน์อะไรกลับมา และเตรียมคำตอบอื่นๆ ตามคุณสมบัติที่เราได้ระบุไว้ในใบสมัคร (ซึ่งใบสมัครนี้ เราจะต้องเข้าไปกรอก และปริ๊นออกมาจากในเว็บโครงการของทางดิสนีย์ ) ในใบสมัครจะถามประวัติส่วนตัว ประวัติการทำงาน(ถ้ามี) ประวัติครอบครัว ตำแหน่งงานที่เราเลือก และอื่นๆ

ก่อนวันสัมภาษณ์หนึ่งวัน เราก็มาส์คหน้า หัดพูดหน้ากระจก เตรียมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย เหมือนจะต้องไปสัมภาษณ์งานครั้งแรกในชีวิต พอวันเดินทาง เวลานัดหมายคือประมานตีสาม เพราะเดินทางจากเชียงใหม่ไปเชียงรายประมานสามชั่วโมง

พอมาถึง เราก็ไปหาข้าวเช้ากินก่อน เพราะสำคัญมากกับสมอง ดีที่มีเพื่อนเรียนอยู่ที่แม่ฟ้าหลวง เพื่อนเลยพาไปหาไรกิน จากนั้นก็มานั่งรอสัมภาษณ์ เค้าก็ประกาศรายชื่อเป็นคู่ๆ เราได้คู่กับเพื่อนที่มาจากมหาลัยเดียวกัน แต่คนละคณะ ตอนรอสัมภาษณ์ เห็นคนอื่นๆ อ่านคำตอบที่พวกเขาเองก็เตรียมไว้ แอบหวั่นๆในใจนิดๆ แต่ก็พยายามไม่สนใจและฟังเพลงไปเรื่อยๆ(เพราะเครียดอ่ะนะ-*-)

พอถึงเวลาสัมภาษณ์จริงๆ ก็ได้ใช้มารยาททางสากลเลย Lady First ฮ่าๆ เป็นคนแรกที่ได้สัมภาษณ์ คำถามที่ถามถือว่าเราเดาถูกอยู่บ้างเหมือนกัน เลยตอบสบายๆ พยายามชวนเค้าคุย ยิ้มให้ พูดเยอะๆ นอกจากนี้ เค้าก็ถามว่า เหนทางบ้านขายนาฬิกา ไหนลองบอกวิธีการช่วยลูกค้า ถ้าลูกค้าเข้ามาในร้าน เราก็ต้อบตามที่เคยทำที่บ้าน เหนสายตาและรอยยิ้มของเค้าก็เบาใจว่าน่าจะฟังออก นอกจากนี้ ยังถามว่าเดินทางมาเชียงรายเหนื่อยไหม จากบ้านมาเชียงรายไกลหรือป่าว พอตอนสุดท้าย เค้าก้อถามว่ามีไรอยากพูดไหม เราเลยบอกขอบคุณเค้าที่ให้โอกาสในการมาสัมภาษณ์ครั้งนี้ หลังจากนั้นก็เป็นทีของคู่เราบ้าง  พอสัมภาษณ์เส็ดทั้งคู่ เราก้อมานั่งคิดว่าการสัมภาษณ์ก่อนนั้น เป็นเรื่องที่ดีนะ เพราะเราจะได้ไม่กังวลถึงสิ่งที่เตรียมมาพูดมากนัก จากนั้นก็รอผลเท่านั้นเอง

หลายอาทิตย์ต่อมา ขณะนั่งกินข้าวที่โรงอาหาร ก็มีพี่จากลอนดอนเฮ้าส์โทรมาบอกว่า เราได้รับคัดเลือกตำแหน่ง merchandise เราดีใจมากฮ่าๆ เลยกินอาหารมื้อนั้น อย่างมีความสุข

ปล. เพื่อนสนิทเราไม่ผ่านการคัดเลือกรอบสอง เศร้าใจจัง

หลังจากนั้น เดือนตุลาก็ประชุมเรื่องการเตรียมตัว ค่าใช้จ่าย การสัมภาษณ์วีซ่าตอนเดือนมกรา และการประชุมเตรียมตัวรอบสุดท้ายเดือนกุมภา

ค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เราจ่ายไป ประมาณ 86000 บาท รวมตั๋วเครื่องบินไปกลับ ค่าประกันอุบัติเหตุ ค่าวีซ่า ค่าบ้าน เงินเตรียมตัวหมื่นห้า และอื่นๆ

วันนี้ แค่นี้ก่อนนะค่ะ เด๋วตอนหน้าจะเล่าถึงชีวิตที่อยู่ที่โน่น

Hello!! my Blog

My Blog 


นี่เป็นโอกาสครั้งแรกที่ได้เขียนบล็อกของตัวเอง 5555+++ หลังจากคิดไว้นานแล้วแต่ไม่ได้ทำ บล็อกนี้จะเป็นการเขียนเล่าเรื่องราวของเจ้าของบล็อกที่ได้ผ่านมา เน้นๆไปทางประสบการณ์การท่องเที่ยวซะมากกว่า^-^

หากคนอ่านท่านใดหลงเข้ามา ก็ช่วยไม่ได้นะค่ะ ฮ่าๆ